Bridgestone นำเทคโนโลยี ENLITEN ที่ปฏิวัติวงการล่าสุด
มาใช้กับพันธมิตรที่ยาวนานอย่าง Volkswagen เริ่มใช้กับรถ Golf 8 รุ่นล่าสุด
· พบกับยาง TURANZA Eco ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเป็นยางติดตั้งรถยนต์ของ Volkswagen Golf 8 รุ่นล่าสุด
· เทคโนโลยี ENLITEN ที่มีน้ำหนักเบาช่วยให้ยางมีความต้านทานการหมุนต่ำเป็นพิเศษ[1] ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยมและเพิ่มสมรรถนะการควบคุมรถและความคล่องตัวในการขับขี่เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น
· หลังจากที่มีการประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า Bridgestone ได้นำเทคโนโลยี ENLITEN มาสู่ท้องถนนเป็นครั้งแรกในงาน Volkswagen's all-electric ID.3 นับอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือระยะยาวระหว่างทั้งสองบริษัท
[บรัสเซลส์] (17 กันยายน 2563) – บริดจสโตน ผู้นำด้านโซลูชั่นขั้นสูงและการเดินทางอย่างยั่งยืน เผยว่าเทคโนโลยี ENLITEN (เอ็นไลท์เทน) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และมีน้ำหนักเบาได้รับการออกแบบในยาง TURANZA Eco ซึ่งยาง TURANZA Eco นั้นได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถ Golf 8 รุ่นล่าสุดของ โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ซึ่งเป็นรุ่นที่แปดของรถแฮทช์แบคที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยมีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งรวมถึงโหมดการควบคุมกึ่งอิสระที่ช่วยให้รถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองและเทคโนโลยีช่วงล่างแบบใหม่ที่เพิ่มสมรรถนะการควบคุมและความคล่องตัวในการขับขี่ อย่างยางบริดจสโตน TURANZA Eco ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ซึ่งได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ให้กับรถ Golf 8
[1] จากข้อมูลภายในของ Bridgestone เปรียบเทียบระหว่างยางพรีเมียมฤดูร้อนของ Bridgestone ที่มีและไม่มีเทคโนโลยี ENLITEN โดยใช้ยางขนาดเท่ากัน (92Y 225/40R18 XL)
โดยช่วยให้มีความต้านทานการหมุนต่ำเป็นพิเศษ1 เพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม โดยลดการใช้วัตถุดิบในการผลิตลงและได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนทางเปียกและลดการสึกหรอ เทคโนโลยี ENLITEN ของ บริดจสโตน ยังมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง และในขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มสมรรถนะการควบคุมรถและความคล่องตัวในการขับขี่ผ่านมวลการหมุนที่ลดลง เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น
หลังจากที่มีการประกาศข่าวไปเมื่อไม่นานนี้ว่า มีการนำเทคโนโลยี ENLITEN มาสู่ท้องถนนเป็นครั้งแรกในงาน Volkswagen’s ID.3 นี่ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของความร่วมมือระยะยาวระหว่าง บริดจสโตน และโฟล์กสวาเกน
ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถและความคล่องตัวในการขับขี่
ขณะที่กำลังพัฒนารถ Golf 8 รุ่นใหม่ โฟล์กสวาเกน ต้องการยางที่มีความต้านทานการหมุนต่ำเป็นพิเศษโดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านอื่น ๆ บริดจสโตน ซึ่งเป็นพันธมิตรระยะยาวของโฟล์กสวาเกน ได้ตอบโจทย์นั้นด้วยยาง TURANZA Eco ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ซึ่งได้รับฉลาก EU ที่ดีที่สุดในระดับ A-grade ในด้านความต้านทานการหมุนและด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของยางที่ได้รับการออกแบบอย่างพิเศษนี้ คือการช่วยเพิ่มสมรรถนะการควบคุมรถ ซึ่งเกิดจากการผสานวัสดุพิเศษที่ใช้สร้างเทคโนโลยี ENLITEN เข้ากับกระบวนการผสมแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต้านการสึกหรอของเทคโนโลยีคอมพาวนด์ โดยไม่ส่งผลต่อการยึดเกาะถนนและด้วยช่องว่างและการออกแบบรูปแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบที่เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนทางเปียกและการต้านการสึกหรอ ทำให้มั่นใจได้ว่ายางบริดจสโตน TURANZA Eco ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและการขับขี่บนทางเปียก ซึ่งได้รับฉลาก EU ในระดับ B โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการสึกหรอ โดยคุณสมบัติของการออกแบบและการพัฒนาเหล่านี้ผสานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มสมรรถนะการควบคุมรถ โฟล์กสวาเกน Golf 8 เพื่อให้ได้รับความเพลิดเพลินกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น
ควบคู่ไปกับความคล่องตัวในการขับขี่ที่ดีขึ้นเนื่องจากแรงต้านทานการหมุนที่ลดลง เทคโนโลยียางน้ำหนักเบาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบริดจสโตน ยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการลดการใช้วัสดุและลดความต้านทานการหมุนลงเพื่อมอบประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ ยางที่มีเทคโนโลยี ENLITEN มีความต้านทานการหมุนที่ต่ำกว่ายางพรีเมียมสำหรับงานใช้งานช่วงฤดูร้อนทั่วไปของบริดจสโตนถึง 30 เปอร์เซ็นต์1 และยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย นอกจากนี้ยางที่มีเทคโนโลยี ENLITEN ยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นโดยลดน้ำหนักลงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยางพรีเมียมฤดูร้อนทั่วไปของ บริดจสโตน1 ซึ่งเท่ากับว่าทรัพยากรวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการผลิตยางแต่ละเส้นน้อยลงถึง 2 กก. นับเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอีกประการหนึ่งในแง่ของการใช้ทรัพยากรและการจัดการวัสดุเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งานในขั้นตอนสุดท้าย
ประโยชน์ของเทคโนโลยี ENLITEN ที่มีต่อโฟล์กสวาเกน
ยาง TURANZA Eco รุ่น 205 / 55R16 91H เป็นยางรุ่นล่าสุดที่มีเทคโนโลยี ENLITEN ได้รับการพัฒนาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Bridgestone EMIA ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี และผลิตขึ้นในประเทศสเปน และจำหน่ายแล้วในตลาดยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020
Steven De Bock รองประธานฝ่าย Consumer Replacement และ OE ที่ บริดจสโตน EMIA ได้กล่าวถึงการเปิดตัวนี้ว่า: “เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี ENLITEN ว่าเป็นความก้าวหน้าในการพัฒนายางที่ยั่งยืน และถูกต้อง แต่การเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ก็สำคัญเช่นกัน ด้วยความต้านทานการขับขี่ที่ต่ำและน้ำหนักที่เบาของ TURANZA Eco กับเทคโนโลยี ENLITEN จึงทำให้ยางเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่อย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในเครื่องยนต์ที่ใช้กำลังต่ำ เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่เราสามารถนำคุณสมบัติที่หลากหลายของเทคโนโลยี ENLITEN มาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งก็คือความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความเพลิดเพลินในการขับขี่ และต้องขอบคุณความร่วมมือจาก โฟล์กสวาเกน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมงานกันมายาวนานของเรา โดยที่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบคุณค่าให้กับสังคมและลูกค้าในฐานะบริษัทโซลูชั่นที่ยั่งยืนต่อไป”
สำหรับข่าวสารเพิ่มเติมของบริษัท สามารถติดตามทางเว็บไซต์ www.bridgestone.com/
เกี่ยวกับบริดจสโตน
บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากการผลิตยางรถยนต์สำหรับการนำไปใช้ที่หลากหลายกว้างขวางแล้ว ยังผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลายครอบคลุมในวงกว้างซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ยางอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์กีฬา ผลิตภัณฑ์ของบริดจสโตน มีจำหน่ายมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย บริดจสโตนประสบสำเร็จในการเป็นผู้นำทางการตลาดยางรถยนต์ในประเทศตลอดกว่า 51 ปี นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการในปีพ.ศ. 2512 โดยมีแนวทางการทำงาน คือ มุ่งมั่น ริเริ่ม สร้างสรรค์ คิดค้น วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกๆด้านให้ดีที่สุดและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต การตรวจสอบควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน นอกจากนี้บริดจสโตนยังส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคมให้สอดคล้องกับปรัชญาที่ยึดมั่นเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกว่า “รับใช้สังคม ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” (Serving Society with Superior Quality)