เคล็ดลับการหายางรถยนต์ที่ใช่ และเลือกยางอย่างไรให้ตอบโจทย์

ความรู้เรื่องยาง | ความรู้ทั่วไปสำหรับผู้ใช้รถยนต์

เคล็ดลับการหายางรถยนต์ที่ใช่ และเลือกยางอย่างไรให้ตอบโจทย์

โดยเฉลี่ยผู้ใช้รถยนต์จะเปลี่ยนยางทุกๆ 50,000 กิโลเมตร เนื่องจากดอกยางเริ่มเสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นระยะเวลานาน จึงเริ่มต้องการหายางรถยนต์เพื่อเปลี่ยนใหม่ เพิ่มความปลอดภัยและคงประสิทธิภาพการขับขี่รถของคุณไว้ให้ดีดั่งเดิม ซึ่งการหายางรถยนต์ในแต่ละครั้ง ไม่ใช่แค่การมองหาตามความชอบเท่านั้น แต่จะต้องเลือกยางรถยนต์ให้มีความเหมาะสมกับทั้งรุ่นรถ ประเภทของรถ และลักษณะการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ด้วย เราจึงรวบรวมเคล็ดลับการค้นหายางรถยนต์ที่ใช่ วิธีเลือกยางอย่างไรให้ตอบโจทย์ รวมถึงมาแชร์เกี่ยวกับข้อเสียว่าหากเราเลือกยางรถยนต์ผิดประเภทการใช้งานมาให้ดูกัน เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขับขี่รถยนต์ระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลังได้

หายางรถยนต์ และเลือกยางรถยนต์

5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องค้นหายางรถยนต์ใหม่แล้ว

  • ดอกยางเริ่มตื้น
  • แก้มยางรถยนต์เริ่มมีรอยปริ
  • ยางเกิดอาการบวม
  • ยางมีอายุการใช้งานนานแล้ว
  • ยางมีรอยตำหรือรอยรั่วที่ไม่สามารถปะซ่อมได้

 

วิธีค้นหายางรถยนต์ BRIDGESTONE ที่ใช่สำหรับคุณ

ประเภทของรถยนต์

รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีสเปคของยางมาตรฐานที่ติดกับรถยนต์มาให้ ดังนั้นไม่ควรจะละเลยหรือเลือกตามความชอบของตัวเองเพียงอย่างเดียว เช่น ชอบให้ยางรถยนต์มีหน้ากว้าง แต่รถยนต์ที่ใช้กลับเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก อาจส่งผลให้รถอืดในช่วงออกตัว พวงมาลัยหนัก หรือกินน้ำมันมากขึ้นได้

นิสัยการขับขี่

หากคุณชอบที่จะขับขี่ด้วยความเร็วสูง เลี้ยวโค้งคล่องตัว ควรมองหายางรถยนต์ประเภทสปอร์ตซึ่งยึดเกาะถนนได้ดี ทำให้เข้าโค้งได้มั่นใจ และควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันหากเป็นคนที่ต้องวิ่งบนถนนขรุขระบ่อยๆ ก็ควรเลือกยางที่ทนทาน และมีแก้มยางสูงสักหน่อย เพื่อลดแรงสะเทือนและไม่ให้ยางรถยนต์เกิดความเสียหายได้ง่าย

การใช้งานรถยนต์บนท้องถนน

หากคุณขับบนถนนลาดยางทั่วไป และต้องการความนุ่มสบายในการขับขี่ ก็จะมียางประเภทนุ่มเงียบ มีการโยนตัวน้อย แต่หากคุณต้องขับรถยนต์ในพื้นที่ถนนขรุขระ หรือบรรทุกของหนัก ยางประเภทนุ่มเงียบก็จะไม่เหมาะ เพราะอาจจะทำให้ยางรถยนต์มีอาการบวมหรือระเบิดได้ จึงควรเปลี่ยนมามองหายางรถยนต์ในกลุ่ม Heavy Duty เพื่อให้รองรับการใช้งานของรถยนต์ได้อย่างเหมาะสม

สภาพอากาศ

เนื่องจากในต่างประเทศจะนิยมแบ่งประเภทยางรถยนต์ตามสภาพอากาศด้วย เช่น ยางสำหรับวิ่งบนหิมะ แต่ประเทศไทยไม่มีหิมะตก ดังนั้นจึงนิยมจัดจำหน่ายยางรถยนต์รุ่นที่สามารถใช้งานได้บนพื้นถนนแห้งหรือเปียกอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อย่าเผลอไปใช้ยางรถยนต์สำหรับหิมะ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง และควบคุมรถได้ยากมากยิ่งขึ้น

 

วิธีการค้นหาขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับขนาดรถยนต์มากที่สุด

อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้ควบคู่ไปกับปัจจัยการขับขี่ข้างต้นก็คือ การเลือกขนาดของยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับขนาดรถยนต์คุณ สำหรับการค้นหายางรถยนต์ใหม่ให้มีประสิทธิภาพเพราะหากเลือกผิดก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่าง ล้อไม่เกาะถนน ล้อเกินซุ้ม ทำให้การขับขี่ของคุณนั้นไม่ปลอดภัย

โดยการอ่านตัวเลข 3 ชุด บริเวณที่ล้อยางรถยนต์เก่าของคุณ ซึ่งจะบอกขนาดผ่านค่าความกว้าง ความสูง และเส้นผ่าศูนย์กลาง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

 

 

ข้อเสียจากการเลือกยางรถยนต์ผิดประเภทการใช้งาน

เนื่องจากในตลาดยางรถยนต์ขณะนี้มีรุ่นออกมาให้เลือกหลากหลาย และออกแบบมาให้ตรงกับการใช้งานของผู้ขับขี่ ดังนั้นขั้นตอนการเลือกจึงซับซ้อนมากขึ้น จนทำให้คุณสับสนว่าจะต้องเลือกค้นหายางรถยนต์อย่างไรให้ถูกต้อง หรือในบางครั้งอาจจะละเลยไม่ตระหนักถึงผลเสียระยะยาวหากเลือกใส่ยางรถยนต์ผิดประเภท ดังต่อไปนี้

ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง

การใช้ยางรถยนต์ที่มีขนาดไม่เหมาะสม หรือไม่ตรงตามประเภทการใช้งานของผู้ขับขี่ จะส่งผลให้สมรรถนะของรถยนต์ลดลง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม การเลี้ยว การเบรก หรือเสถียรภาพการขับขี่ทั่วไป ทำให้การขับรถของคุณจะยากขึ้นมากเรื่อยๆ

แผงหน้าปัดรถยนต์อ่านค่าความดันลมยางไม่ถูกต้อง (TPMS)

การอ่านค่าความดันลมยาง หรือค่าอื่นๆ บริเวณยางรถยนต์ที่ผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้จากการเลือกยางรถยนต์ผิดขนาด ส่งผลให้เซ็นเซอร์วัดความดันลมยางรถยนต์ได้ต่ำหรือสูงเกินกว่ากำหนด และแสดงผลที่คลาดเคลื่อนไปยังแผงหน้าปัดรถยนต์

อัตราความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น

เมื่อยางรถยนต์ไม่สามารถทำหน้าที่ยึดเกาะถนนจากการเลือกยางผิดประเภท หรือหายางรถยนต์ขนาดไม่ถูกต้อง ย่อมส่งผลให้การเบรกหรือการควบคุมรถยนต์นั้นยากกว่าเดิม ทำให้คุณต้องอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างเหตุการณ์รถยนต์พลิกคว่ำ หรือเลี้ยวตกขอบทางถนน

 

สัญญาณเตือนที่บอกว่า คุณเลือกหรือค้นหายางรถยนต์ผิดประเภทแล้ว

รู้สึกการขับขี่รถยนต์ไม่เกาะถนนเต็มที่

ในกรณีนี้เป็นเพราะใส่ยางรถยนต์หน้าแคบเกินกว่าสเป็กกระทะล้อ ทำให้แก้มยางเบ่งออกมามากเกินไป กลายเป็นปัญหาหน้ายางรถยนต์ไม่ยึดเกาะติดถนนได้เต็มประสิทธิภาพ และแก้มยางรถยนต์ยังมีความยืดหยุ่นต่ำ

รู้สึกการขับขี่รถยนต์มีความแกว่ง

เป็นกรณีการใส่ยางรถยนต์หน้ากว้างเกินกว่าสเป็กกระทะล้อ แก้มยางรถยนต์จึงถูกบีบให้ห่อตัวมากเกินไป ส่งผลให้การขับขี่มีการแกว่ง บังคับยากมากขึ้น

แผงบังโคลนมีรอยชำรุดมากขึ้นเรื่อยๆ

หากคุณกำลังใช้ยางรถยนต์ที่มีขนาดหน้ากว้างเกินไป ก็จะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างยางรถยนต์กับหน้าแผงบังโคลนจนเสียหายหนักขึ้นในอนาคต

รถยนต์มีการแฉลบออกเมื่อขับรถลุยแอ่งน้ำตื้น

เกิดจากยางรถยนต์ที่มีดอกตื้นเกินไป ส่งผลให้รถยนต์ควบคุมยากและประสิทธิภาพในการรีดน้ำของยางรถยนต์ต่ำลงอีกด้วย

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณพบเจอสัญญาณอาการผิดปกติระหว่างการขับขี่รถยนต์ ในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติม ควรเข้ามาตรวจเช็กกับศูนย์ให้บริการด้านยางรถยนต์โดยตรง เพื่อหาจุดบกพร่องและแก้ไขก่อนจะเกิดข้อเสียมากมาย กลายเป็นอันตรายร้ายแรงขณะขับขี่รถยนต์ แต่เมื่อเลือกใช้ยางรถยนต์ถูกต้องแล้ว ก็ควรรู้วิธีการรักษายางให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ปลอดภัยมากขึ้น

 

จะรักษายางรถยนต์ให้มีอายุการใช้งานยาวนานต้องทำอย่างไร

แม้ผู้ใช้รถจะนิยมเปลี่ยนยางทุกๆ 50,000 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณภาพของยางอาจจะเสื่อมก่อนเวลาได้ ด้วยปัจจัยต่างๆ อย่าง สภาพแวดล้อม อากาศที่ร้อนขึ้น หรือการใช้งานในลักษณะถนนที่มีหลุมบ่อเยอะ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมก่อนเวลา เราควรรู้วิธีการรักษายางรถยนต์ด้วยตัวเอง เช่น ตรวจสอบความดันลมยางในทุกเดือนเป็นประจำ ตรวจสอบรอยสึกของยาง สลับยางรถยนต์เป็นประจำ ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และตั้งศูนย์ถ่วงล้อเพื่อสร้างสมดุลตามมาตรฐาน

 

พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรเลี่ยง เพื่อยืดอายุยางรถยนต์

  • ไม่ควรบรรทุกของที่มีน้ำหนักเกินค่าดัชนีการรับน้ำหนักที่ยางแต่ละขนาดกำหนดเอาไว้
  • ฝืนขับรถโดยที่ลมยางอ่อน กรณีนี้จะทำให้ยางรถยนต์เสียหายได้
  • การขับรถกระแทกหลุมบ่อเป็นประจำนอกจากยางจะเสื่อมสภาพแล้วยังทำให้รถยนต์ช่วงล่างแย่ลงอีกด้วย
  • ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือเบรกกะทันหัน จะทำให้ดอกยางเสื่อมสภาพเร็ว

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการค้นหายางรถยนต์ใหม่

เพิ่มความมั่นใจในการหายางรถยนต์ใหม่ให้ถูกต้องและถูกใจมากที่สุด ด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์บริการยางรถยนต์โดยเฉพาะ เพื่อรับการประเมินปัญหาที่ตรงจุด หลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาซ้ำซากจากการเลือกยางรถยนต์ผิดประเภท เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การขับขี่ของคุณมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยสบายใจตลอดทุกเส้นทาง