สำหรับในปีนี้บริดจสโตนใช้เทคโนโลยี ENLITEN เป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับการออกแบบยางเพื่อให้เป็น “ยางพรีเมียมใหม่” ที่พร้อมใช้งานในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge นับเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี ENLITEN ได้ถูกนำมาใช้ในแพลตฟอร์มการแข่งขัน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับช่วงเวลาประวัติศาสตร์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตของบริดจสโตน อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความเป็นมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความยั่งยืนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริดจสโตน ใน “ด้าน Energy (พลังงาน) ด้วยการตระหนักถึงสังคมแห่งการเดินทาง ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” และ “ด้าน Emotion (ความรู้สึก) ด้วยการสร้างความตื่นเต้น และความสุขในสังคมแห่งการเดินทาง” ใน “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” *“บริดจสโตนยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับยางใหม่ และยังสะท้อนผ่านคุณค่าใน Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” คุณโทโมยูคิ ทาคากิ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาดระดับโลก บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น กล่าว
“เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge และยังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนผู้เข้าแข่งขันในปีนี้ พร้อมกับส่งต่อความตื่นเต้นเร้าใจผ่านโซลูชั่นด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน และการพัฒนานวัตกรรมผ่านรายการการแข่งขันดังกล่าว”
Bridgestone World Solar Challenge นับเป็นรายการแข่งขันรถพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของโลก และยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของบริดจสโตนกับบทบาทสำคัญในการสนับสนุนวัฒนธรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ในฐานะที่บริดจสโตนเป็นแบรนด์พรีเมียมระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน การกลับมาอีกครั้งของการสนับสนุนการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ในปี ค.ศ. 2023 ถือเป็นอีเวนท์แรก นับตั้งแต่ที่บริดจสโตนได้ประกาศขยายขอบเขตการเป็นผู้สนับสนุนหลักในปี ค.ศ. 2019 บริดจสโตนเดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันรายการดังกล่าวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มจำนวนยางที่สนับสนุนในการแข่งขันจาก 1 ทีม ในปี ค.ศ. 2013 เป็นจำนวนถึง 35 ทีมที่ใช้ยางบริดจสโตน จากทั้งหมด 45 ทีม ในปี ค.ศ. 2023
ด้วยการยึดมั่นในเรื่องความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจ บริดจสโตนมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ “สู่ปี ค.ศ. 2050 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” โดยการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการหลอมรวมกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตและโซลูชั่นอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตเข้าด้วยกัน กิจกรรมดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยบริดจสโตนในการวิจัยและพัฒนาในโลกปัจจุบันบนสภาวะต่างๆ ที่ท้าทายเพื่อทดลองใช้ยางที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี ENLITEN
คุณโทโมยูคิ ทาคากิ กล่าวเสริมว่า “การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ได้สร้างแพลตฟอร์มในอุดมคติให้กับบริดจสโตนในการพัฒนาและจัดแสดงยางที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี ENLITEN เพื่อใช้สำหรับยานพาหนะที่ทันสมัย รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นเกี่ยวกับการเดินทางทั่วโลก”
“ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์มุ่งเป้าไปที่การใช้พลังงานไฟฟ้า การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เป็นเวทีให้เราได้แสดงถึงเทคโนโลยีและศักยภาพในการพัฒนายางให้โลก
ได้รับรู้ ซึ่งการแข่งขันรายการดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับเรื่องราวของบริดจสโตน รวมถึงอนาคตของเราในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน”
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เป็นเพียงหนึ่งในความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกตามแผนการสนับสนุนกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตเพื่อความยั่งยืนระดับโลกของ
บริดจสโตน รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรม Bridgestone FIA ecoRally Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า นับเป็นหนึ่งในแผนการสนับสนุนกิจกรรมกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมระดับสามดาวจาก Federation Internationale de l'Automobile (FIA) ซึ่งเป็นองค์กรสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไร
โดยจะควบคุมกีฬาและการแข่งขันกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1987 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารถพลังงานแสงอาทิตย์ สนับสนุนวิศวกรรุ่นใหม่ และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
ด้วยการใช้แหล่งพลังงานใหม่อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ ผู้เข้าร่วมจะมีส่วนในการออกแบบ สร้างสรรค์ และพัฒนายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพระดับโลก สำหรับการแข่งขันในปี ค.ศ. 2023
จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2023
ภาพรวมของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge ประจำปี ค.ศ. 2023
1.วันที่จัดการแข่งขัน: ระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม ค.ศ. 2023
2.ประเทศที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน: ออสเตรเลีย (จากเมืองดาร์วินสู่เมืองแอดิเลด)
3.เจ้าภาพจัดการแข่งขัน: องค์กร South Australian Motor Sport Board (SAMSB)
4.รายละเอียดการแข่งขัน
(1) คลาส Challenger
ความท้าทายสู่การเป็นที่หนึ่งในยานพาหนะที่ออกแบบเพื่อความเร็ว ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อน 3 หรือ 4 ล้อ และนักขับ 1 คน
การสนับสนุนของบริดจสโตน: 25 ทีม (จากทั้งหมด 32 ทีม)
(2) คลาส Cruiser
ความท้าทายที่มุ่งทดสอบประสิทธิภาพด้านพลังงานและการนำไปใช้งานของยานพาหนะ ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นักขับ 1 คน และมีผู้โดยสารมากกว่า 1 คน
การสนับสนุนของบริดจสโตน: 10 ทีม (จากทั้งหมด 11 ทีม)
(3) คลาส Adventure
ความท้าทายที่เปิดโอกาสให้ยานพาหนะที่ไม่ตรงตามเกณฑ์เข้าร่วมแข่งขันในคลาส Challenger หรือ Cruiser เช่น ยานพาหนะที่อยู่ในข้อกำหนดของการแข่งขันรอบก่อนหน้า ซึ่งต้องใช้ระบบขับเคลื่อนมากกว่า 3 ล้อ
*กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้กำหนด “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของ บริดจสโตน)" เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: "สู่ปี ค.ศ. 2050 บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคม
และลูกค้า ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน" ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ ไปกับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
“Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)" ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของบริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร "E" (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม),
ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ), ด้าน Extension (การเติบโต), ด้าน Economy (เศรษฐกิจ), ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) และ ด้าน Empowerment (พลังทางสังคม)
ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านจตจำนง และกระบวนการทำงานร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้า เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
https://www.bridgestone.com/corporate/news/pdf/2022030101.pdf